ราคาหุ้น Tesla (TSLA) กลับมาฟื้นตัวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากเผชิญแรงกดดันทั้งจากภาวะตลาดโดยรวม ยอดขายที่ชะลอลง และการแข่งขันที่ดุเดือดจากค่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายอื่นทั่วโลก คำถามสำคัญคือ: ตอนนี้ยัง “น่าเก็งกำไร” อยู่หรือไม่ หรือราคาที่ฟื้นขึ้นเป็นเพียงการดีดตัวระยะสั้น
เทรนด์ฟื้นตัวของหุ้น TSLA ช่วงล่าสุด
นับตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ปี 2025 ราคาหุ้น Tesla ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมากกว่า 20% จากจุดต่ำสุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาด การลดต้นทุนในสายการผลิต และข่าวการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ได้รับความสนใจจากตลาด
นอกจากนี้ บางสำนักวิเคราะห์ยังมองว่าการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (mega-cap tech) ในตลาดสหรัฐฯ เป็นอีกแรงผลักดันที่ช่วยหนุนราคาหุ้น TSLA ให้กลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุน
การแข่งขันในอุตสาหกรรม EV: โอกาสหรือความเสี่ยง?
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปี 2025 ไม่ได้มีเพียง Tesla อีกต่อไป คู่แข่งจากจีนอย่าง BYD, NIO รวมถึงค่ายเก่าจากยุโรปและญี่ปุ่น ต่างเร่งเปิดตัว EV รุ่นใหม่ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า ในขณะที่ Tesla ยังถูกวิจารณ์ว่าขาดนวัตกรรมใหม่ และมีความล่าช้าในการเปิดตัว Cybertruck หรือ Robotaxi ที่เคยสัญญาไว้
การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นอาจทำให้ Tesla ต้องลดราคาขายหรือเพิ่มต้นทุนการพัฒนา ซึ่งกระทบต่อ margin โดยตรง แต่ในอีกมุมหนึ่ง หาก Tesla สามารถรักษาความได้เปรียบในด้านแบรนด์, ระบบชาร์จ (Supercharger), และซอฟต์แวร์อย่าง Full Self-Driving ได้ ก็ยังถือว่ามี “Moat” อยู่ในระยะกลางถึงยาว
จุดที่ควรจับตาก่อนตัดสินใจลงทุน
-
ผลประกอบการรายไตรมาส: ควรดูว่าการฟื้นตัวของยอดขายเกิดขึ้นจริง หรือเป็นเพียงการรีบาวด์ชั่วคราว
-
Margin กำไร: หาก Tesla ต้องลดราคาเพื่อแข่งกับคู่แข่ง จะกระทบกำไรหรือไม่
-
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่: เช่น Robotaxi ที่ Elon Musk เคยประกาศไว้หลายครั้ง หากเลื่อนอีก อาจกระทบความเชื่อมั่น
-
แนวโน้มดอกเบี้ย: หาก FED ชะลอการลดดอกเบี้ย อาจกดดันหุ้นเทคทั้งหมด รวมถึง Tesla
-
ภาวะเศรษฐกิจจีน: เพราะ Tesla พึ่งพาตลาดจีนสูง หากเศรษฐกิจจีนชะลอจริง อาจกระทบยอดขายในตลาดหลัก
สรุป: Tesla ยังน่าเก็งกำไรอยู่ไหม?
ถ้าคุณมอง Tesla เป็นหุ้นเติบโตระยะยาวที่ยังมีศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม หุ้น TSLA ยังน่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อราคาย่อตัวหรือฟื้นตัวหลังข่าวบวก แต่ถ้ามองในมุมเก็งกำไรระยะสั้น ต้องจับตาผลประกอบการ ข่าวเปิดตัวสินค้า และการเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มเทคโดยรวมอย่างใกล้ชิด
Tesla ไม่ใช่หุ้น EV เพียงตัวเดียวอีกต่อไป การตัดสินใจลงทุนจึงต้องวิเคราะห์มากกว่าแค่ชื่อแบรนด์ หรือกระแสข่าวระยะสั้น